การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง โดยเดินทางไป 2 คนกับภรรยา จึงได้ทำสรุปแผนการท่องเที่ยวเมืองโอซาก้า (Osaka) และเกียวโต (Kyoto) เป็นแผนญี่ปุ่น 8 วัน 7 คืน นอกจากแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นและยังได้สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการประเมินงบประมาณ ค่าใช้จ่ายหลักๆก็คือโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน ส่วนอาหารและช๊อปปิ้งแล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคน นอกจากนั้นยังได้เจอปัญหาที่คนเดินทางเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกได้พบเจอไว้เป็นแนวทางแก้ไขด้วยครับ
สำหรับสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปญี่ปุ่นได้ List ออกมาเป็นรายการได้ดังนี้
การเตรียมตัวของแต่ละคนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเหมาะสม นอกจากเตรียมตัวเข้าประเทศญี่ปุ่นแล้วศึกษาวิธีการใช้รถไฟ รถบัส ก็ควรรู้ไว้เช่นกัน
สำหรับวิธีขึ้นรถไฟจะง่ายมากเมื่อเราดูสายที่จะขึ้นและเดินไปที่ Gate สอดบัตร Kansai Thru Pass เข้าไปประตูจะเปิดจากนั้นก็หยิบบัตรที่มันจะยื่นออกมาจากฝั่งตรงข้าม
วิธีขึ้นรถบัสก็ง่ายมากเช่นกันปกติขึ้นที่ประตูตรงกลางของรถบัสและออกที่ประตูหน้า โดยจะต้องชำระเงินที่ประตูหน้าซึ่งเราสามารถใช้บัตร Kansai Thru Pass หรือบัตร IC Icoca หรือเหรียญจ่ายได้เช่นกัน
**ในการขึ้นรถบัสและรถไฟแต่ละครั้งให้ใช้ googlemap เช็ครอบก่อนขึ้นอีกครั้งเพราะบางทีการเดินทางไปได้หลายสายสามารถใช้รถสายอื่นแทนได้ทำให้เร็วขึ้น อย่าลืมศึกษา Google Map เพิ่มเติมเช่น Function แสดงการเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถบัส เพื่อทำให้เราะไม่สบสัน
รถบัสในเมืองแถบคันไซหลายเมืองอย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ ฯลฯ สามารถใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้โดยจะมีโลกแม่มดน้อยแสดงอยู่ตรงประตูด้านข้างใกล้กับทางขึ้น
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น 8 วัน 7 คืน เบื้องต้นที่ต้องจ่ายแน่ๆตามแผนเที่ยวญี่ปุ่นนี้
รวมเป็นเงินประมาณ 99,737.46 บาท (ใช้จริงเยอะกว่านี้เพราะกินบุบเฟต์ ซื้อเสื้อผ้ายูนิโคลและของฝาก) ใครอยากประหยัดก็จองโรงแรมราคาถูกลง และอาจจะไม่ต้องไป Universal Studios Japan ก็ได้แต่แนะนำว่าให้ไปดีกว่า
นอกนั้นก็สนุก Enjoy ทั้งทริปเลย
ก่อนอื่นไปทำความรู้จักเคาเตอร์เช็คอินของสายการบิน Peach Air ที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินคันไซ Osaka กันก่อน
เคาเตอร์เช็คสายการบิน Peach Air สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ไหน?
เคาเตอร์เช็คอินสายการบิน Peach Air สนามบินคันไซโอนซาก้าอยู่ไหน?
เคาเตอร์เช็คอินสนามบินสุวรรณภูมิสายการบิน Peach Air อยู่เคาเตอร์ M ชั้น 4 ใกล้เทาเข้างที่ 5 และ 6
เคาเตอร์ Check In สายการบิน Peach Air ที่สนามบิน Kansai International Airport อยู่ Terminal 2 ใกล้ๆกับจุดรับส่งรถที่มาจาก Terminal 1 นั่นเอง ปกติรถไฟจะมาที่ Terminal 1 เราต้องนั่งรถ Shuttle Bus ฟรีมาที่ Terminal 2
8.50 น. ถึงสนามบินคันไซโอซาก้ากินข้าวแลกตั๋ว
สิ่งที่ต้องซื้อที่สนามบิน
แลกบัตร Kansai Thru Pass ที่ Limon Welcome Desk Kansai International Airport Terminal 1 1F หรือ Kansai Tourist Information Center
บัตร Ic card ในญี่ปุ่นมีหลายแบบ เช่น Suica, Pasmo, Kitaca, Sapica, Toica, Icoca, Pitapa, Okina เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบสามารถใช้จ่ายค่ารถไฟและบริการอื่นๆที่รองรับได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพียงแต่แยกขายตามภูมภาคเท่านั้นเอง เช่น ภูมิภาค Kansai และ CHUGOKU มีบัตร ICOCA และ PITAPA ขายเป็นหลัก, ภูมิภาค Kanto มีบัตร SUICA และ PASMO ขายเป็นหลัก
วิธีการเดินทางด้วยบัตร Kansai Thru Pass อย่างเดียว (ต้องซื้อบัตร limited Express เพิ่มถ้ารถด่วน) จากสนามบินคันไซไปเมืองเกียวโต บัตร KTP รวมอยู่ในงบแล้ว
รถไฟ Kansai Airport Limited Express Haruka เป็นวิธีเดินทางจาก Kansai Airport ไปยังเมือง Kyoto ได้รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุดเพราะไปถึงเกียวโตโดยไม่ต้องต่อรถไฟขบวนไหนเลย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กลัวหลงทาง กลัวต่อรถไฟไม่ถูกและคนที่ต้องการเดินทางถึงเร็วๆ ในแผนของเราตอนแรกว่าจะใช้วิธีนี้แต่วันที่เดินทางรถไฟสาย Haruka ทำการซ่อมแซมเลยได้ใช้วิธีด้านบนแทน
วิธีที่ถูกที่สุดจากสนามบิน Kansai ไปยังเมือง Kyoto คือ รถบัส Kansai-Airport Limousine Bus
14.00 น. เช็คอิน โรงแรม Urban Hotel Kyoto-Shijo Premium – Fitness & Spa (เช็คอินได้ 15.00น. อาจจะฝากกระเป๋าไว้) โรงแรมนี้จองผ่านอโกด้าไปแล้วปริ้นใบจองให้พนักงานเข้าจะถามว่าต้องการรับอาหารเช้าช่วงไหนเพราะเขาจะได้จำกัดคนไม่ให้ลงมาพร้อมกันจะไม่มีที่นั่งลิงค์จองผ่าน Agoda หรือ Booking ที่นี่ ราคาประมาณคืนละ 2,200 บาท
16.00 น. เดินชมตาลาด Nishiki Market ตลาดขนาดใหญ่ นั่งรถบัสสาย 市営3 จากป้าย Shijo Horikawa ไปลงอีก 3 ป้ายที่ Shijo Takakura (7นาที) แล้วเดินไปอีก 450 เมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
16.30 น. Mina Kyoto (ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุด) เดิน 650 เมตร
17.00 น. กินชาบูไม่บุบเฟต์ TON SHABU HIDE Kyoto Shijo Karasuma นั่งรถบัสสาย 3 จาก Kawaramachi Sanjo ไปอีก 2 ป้ายไปลงที่ Shijo Takakura เดินอีก 220 เมตร หรือเดินประมาณ 1.2 กิโลเมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
20.00 น. กลับโรงแรม เดินกลับไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Karasuma Line จากสถานี Kyoto Station ไปลงสถานีที่ 2 Shijo Station ออกประตู 2 เดินอีก 850 เมตร ( 14 นาที ) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
18.00 น. ไปเกียวโตทาวเวอร์ชมเมือง เดินไปทางทิศเหนือขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีแดง Tozai Line จากสถานี้ Kyoto Shiyakusho-mae Station ไปลงสถานีต่อไปที่ Karasuma Oike Stn. จากนั้นเดินไปที่สถานี้รถไฟใต้ดินสีเขียว Karauma Line ขึ้นสถานี Karasuma Oike Stn. ไปลงอีก 3 สถานีที่ Kyoto station จากนั้นเดินอีก 250 เมตร ( 19 นาที ) ออกประตูที่ 2 –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
19.00 น. ไปชิลเบาๆร้าน Kyoto Beer Lab ร้านจิบเบียร์คราฟต์ เดินจาก Kyoto Tower 950 เมตร
11.00 น. Higashiyama Ward (ถนนคนเดิน) (กินข้าว) เดินไปขึ้นรถบัสสาย 市営207乙 สีเขียวขึ้นที่ป้าย Shijo Horikawa (ใกล้สี่แยกโรงแรม) ไปอีก 10 ป้ายลงที่ ป้าย Umamachi แล้วเดินอีก 180 เมตร ( 28 นาที ) หรือ เดินไปขึ้นรถบัส Keihan Bus 四条山科醍醐線82 สาย 82 ที่แยกลานจอดรถ Shijo Omiya 230yen ลงที่ป้าย Gojo Yamato Oji (ปั้มน้ำมัน) แล้วเดินต่ตออีก 350 เมตร ( 21 นาที) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
อัลบั้มภาพด้านบนคือถ่าย Higashiyama Ward เมื่อวันที่ไปจริงๆ โดยไม่แต่แอพ
14.00 น. ไปเที่ยว Kiyomizu-dera (วัดน้ำใส) เดินจาก Higashiyama อีกประมาณ 1 กิโลเมตร ( 15 นาที )
อัลบั้มภาพด้านบนคือถ่าย Kiyomizu-dera เมื่อวันที่ไปจริง
16.00 น. เดินชม Pontocho Park (เดินชิลชมหมู่บ้าน) เดินออกจากวัดน้ำใสมาหน้าทางเข้าแล้วเลี้ยวซ้ายข้ามฝั่งไปรอรถบัส Keihan Bus สาย 四条山科醍醐線80 จากป้าย Kiyomizumichi ลงป้ายที่ 3 Shijo Keihan (Gion Shijo Eki) –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
17.00 น. ไปกินราเม็งน้ำดำขึ้นชื่อ Kyoto Gogyo เดินไปอีก 850 เมตร
18.00 น. กลับโรงแรมเดิน 1.3 กิโลเมตร หรือนั่งรถบัส 市営3สาย3 จาก Shijo Takakura ไปลงป้ายที่ 3 Shijo Horikawa แล้วเดินอีก 170 เมตร ( 6 นาที ) –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
11.00 น. Arashiyama Bamboo Forest (ป่าไผ่) นั่งรถไฟสาย Randen จากสถานี Shijō-Ōmiya Station ไป 12 สถานีลงที่สถานี Arashiyama Station ( 24 นาที ) จากนั้นเดินไปทางใต้อีก 850 เมตร (รวม 42 นาที) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
15.00 น. นวดเท้าผ่อนคลาย Arashiyu Japanese Foot Spa & Foot Massage นวดและหาของกินแถวนั้่น เดินออกจากวัดเลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 29 ประมาณ 900 เมตร
ภาพด้านบนเป็นป่าไผ่และบริเวณรอบสถานี Arashiyama Bamboo Forest และบริเวณรอบๆ
18.00 น. เดินชม Teramachi-dori ช๊อปปิ้ง (หาของกิน) นั่งรถไฟสาย Randen จากสถานี Arashiyama Station ไปอีก 8 สถานีลงที่ Randen-Tenjingawa Station ( 13 นาที ) จากนั้นเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีแดง Tozai Line ที่สถานี Uzumasa Tenjingawa Station ไปอีก 5 สถานีลงที่ Kyoto Shiyakusho-mae Station จากนั้นเดินไปทางทิศเหนืออีก 1.1 กิโลเมตร –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
19.00 น. ชม Kyoto Handicraft Center ช๊อปปิ้ง เดินมาขึ้นรถบัสสาย 65 (市営65) จากป้าย Kawaramachi Marutamachi ไปอีก 2 ป้ายลงที่ป้าย Kumano Jinja-mae ( 2 นาที ) แล้วเดินอีก 260 เมตร –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
20.00 น. เดินเล่นถนน Shijo-dori ช้อปปิ้ง ขึ้นรถบัสสาย 市営203甲 จากป้าย Kumano Jinja mae ไปอีก 7 ป้ายลงที่ป้าย Shijo Keihan Mae ( 13 นาที ) แล้วเดินอีก 69 เมตร รวมเวลา 15 นาที –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
21.00 น. กลับโรงแรม ขึ้นรถบัสสาย 市営12 จากป้าย Shijo Keihan Mae ไปอีก4 ป้ายลงที่ป้าย Shijo Horikawa ( 10 นาที ) แล้วเดินอีก 180เมตร รวมเวลา 13 นาที หรือ นั่งรถบัสสาย 市営207甲, 市営207甲 ได้เหมือนกัน –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
ฟรี 1 วันไปเที่ยวใกล้เคียงกับโตเกียวได้ เช่น Kobe หรือไป Nara ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้หรือเดินช๊อปปิ้งกินอาหารแถวโรงแรมหรือเก็บตกสถานีท่องเที่ยวที่ไปไม่ได้ตามแผน
10.00 น. เช็คเอาท์
12.00 น. เดินทางไปยังโรงแรม HOTEL ELCIENT OSAKA เดินไปที่สถานี Karasuma Station ของรถไฟ Hankyu Kyoto Main Line นั่งรถไฟ Hankyu Kyoto Main Line ไปลงที่สถานีสุดท้าย Osaka Umeda เดิน 950 เมตร ( 44 นาที ) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
ตอนจองโรงแรมเราจองผ่าน Agoda แล้วปริ้นรายระเอียดการจองให้พนักงานได้เลยง่ายมาก จ่ายเงิน ณ วันที่เจ้าพัก Link จองผ่าน Agoda หรือ Booking ที่นี่ ราคาประมาณ 2,300 บาทรวมอาหาเช้าสำหรับ 2 คน
15.00 น. ไป Outlet Mitsui Park นั่งรถไฟใต้ดินสีม่วงสาย Tanimachi Line จาก Higashi-Umeda Station ไปอีก 4 สถานีลงสถานี Tanimachi 6- chome ( 8 นาที ) จากนั้นเดินไปสถานีใต้ดินสายสีเขียว Nagahoritsurumiryokuchi Line ชื่อสถานี Tanimachi 6-Chome เหมือนกันไป 9 สถานีลงสที่ Kadoma-Mianmi Station ( 21 นาที ) แล้วเดินอีก 550 เมตร ( รวม 51 นาที ) หรือ นั่งรถบัส City bus สาย 36号 จากหน้าโรงแรมที่ป้าย Nishi Temma ลงอีก 29 ป้ายที่ Matsuta Omiya (ใช้เวลาประมาณ 58 นาทีเท่ากัน) –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
Outlet Mitsui Park จากที่ได้ไปมาเป็น Outlet ขนาดไม่ใหญ่มากนัก คนเดินเที่ยวก็ไม่ค่อยเยอะ มีสินค้าราคาถูกลดราคาแต่จำนวนไซส์จะมีน้อย
16. 00 น. Trefac style America-mura ร้านมือสองแบรนด์เนม นั่งรถไฟใต้นดินสายสีเขียว Nagahoritsurumiryokuchi Line จากสถานี Kadoma-Minami station ไปอีก 12 สถานี ลงที่ Shinsaibashi Station เดินออกประตูที่ 7 อีก 600 เมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
Trefac style America-mura ภาพจาก https://www.sugoijp.com/travel_details.php?id=913
16.30 น. ไปช๊อปปิ้งร้าน BOOKOFF PLUS Namba Ebisubashi Store ร้านมือสอง เดินไปอีก 750 เมตร
17.00 น. ไปหอคอย Tsutenkaku Tower ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีแดง Midosuji Line จากสถานี้ Namba Station ไปอีก 2 สถานีลงที่ Dobutsuen-Mae Station ออกประตูที่ 1 เดินอีก 600 เมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
19.00 น. เดินเล่นย่าน Dotonbori นั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล Sakaisuji Line จากสถานี Ebisucho Station ลงสถานีต่อไป Nippombashi Station แล้วเดินอีก 500 เมตร ( 12นาที ) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
จากภาพบรรยากาศย่าน Dotonbori ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน
20.00 น. เดินไปกินบุบเฟต์ ร้าน Yakinikuya Daibokujo 450 เมตร (ต้องจอง) ที่นี่ราคาบุบเฟต์เครื่องดืมและอาหารเหมาะมากเลย แต่น่าเสียดายไปถึงประมาณ 2 ทุ่มไม่ได้จองไว้ต้องรองคิวถึง 4 ทุ่ม เลยได้ไปกินที่อื่น เพราะงั้นอย่าลืมจองไว้ก่อนผ่าน KlooK ก็ได้
21.00 น. กลับโรงแรม นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Sakaisuji Line จากสถานี Nippombashi Station ลงอีก 4 สถานีที่ Minami Morimachi Station แล้วเดินอีก 750 เมตร ( 18นาที ) –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
08.00 น. ไป Universal Studios Japan สวนสนุก เดินไปสถานีรถไฟ Osaka นั่งรถไฟ Osaka Loop Line จากสถานี Osaka Station อีก 3 สถานีลงที่ Nishikujo Station จากนั้นเดินไปที่รถไฟ JR Yumesaki Line สถานี Nishikujo Station ลงสถานีที่ 2 ที่สถานี Universal City Station แล้วเดินอีกนิดหน่อย ( 27 นาที ) ใช้บัตร Icoca จ่าย เที่ยวละประมาณ ( 170yen รวม 340 yen ต่อคน)
หากได้ตั๋วเข้า Universal Studios Japan ก็มาต่อแถวเพื่อเข้าในสวนสนุก จะมีแถวหลายแถวโดยจะมีแถวเพื่อเข้าสวนสนุกและแถวเพื่อซื้อตั๋วเข้าสวนสนุก ซึ่งยาวๆพอกันในตอนเช้าเพราะคนจะมารอเยอะจึงแนะนำให้ซื้อตั๋วไปจากประเทศไทยผ่านทาง Klook ดีกว่า
การเข้า Universal Studios Japan ก็สามารถปริ้นตั๋วที่มี QR Code เพื่อให้เจ้าหน้าทที่สวนสนุก Scan ได้เลย หรือโหลดเก็บไว้ในโทรศัพท์ โชว์จากแอพ Klook ก็ได้
การเข้า Mario Zone ต้องไปจองก่อนจาก USI App วันที่เราไปไม่ได้จองก็เลยไม่ได้เข้าไป กำหนดการเปลี่ยนแปลงบ่อยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ (ภาษาอังกฤษ) ด้านล่างเป็นภาพบรรยากาศเมื่อวันที่ไปจริง
ตั๋วเข้า Studio Pass (Park Entry Ticket) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเล่นเครื่องเล่นสัก 1 – 2 เครื่องและเดินชมบรรยากาศในสวนสนุก
ตั๋วเข้าสวนสนุก USJ แบบ 1 วัน ราคาเริ้มต้น 8,600 เยน
ตั๋วเข้าสวนสนุก USJ แบบ 2 วัน ราคาเริ่มต้น 16,300 เยน (ประหยัดไป 900 เยน)
ตั๋วเข้าสวนสนุก USJ แบบ 1.5 วัน โดยวันที่ 2 จะเข้าตั้งเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป
ตั๋วต่อแถวเร็ว UNIVERSAL EXPRESS PASS ลักษณะเป็นตั๋วลัดคิวคือทำให้เราไม่ต้องต่อแถวนานโดยจะมีราคาแตกต่างกันต่างจำนวนเครื่องที่สามารถลัดคิวได้ บัตร UNIVERSAL EXPRESS PASS มีมากว่า 20 ประเภท ตัวอย่างเช่น
ราคา ¥14,100 เล่นได้ 7 เครื่องเล่น ดังนี้
เป็นตั๋วที่รวมเครื่องเล่นในสวนสนุกที่ตื้นเต้นไว้ให้กับคนที่ชอบความมันส์ ราคา ¥14,100 เล่นได้ 7 เครื่องเล่นดังนี้
เป็นตั๋วเล่นเครื่องเล่นน่าสนใจ 4 สถานีที่ ราคา ¥10,800 ประกอบด้วย
หากสนใจซื้อบัตร Universal Express Pass ให้เช็คในเว็บ USJ ก่อนเพราะบางวันมีการซ่อมบำรุงเครื่องเล่นซึ่งอาจจะเป็นเครื่องเล่นที่เราต้องการเล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเครื่องเล่นอื่นได้ในวันนั้น ตรวจสอบบัตรและกรณีมีการซ่อมบำรุงเครื่องเล่น USJ ที่นี่ สำหรับเครื่องเล่นที่น่าสนใจใน Universal Studios Japan ดูได้ในอัลบั้มภาพด้านล่าง
16.00 น. ไปเที่ยว Giant Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ นั่งรถไฟ JR Yumesaki Line ใช้บัตร Icoca จ่าย จากสถานี Universal City Station ไป 2 สถานีลงที่สถานี Nishikujo Station ( 5 นาที ) เดินไปที่ที่รถไฟสาย Osaka Loop Line ใช้บัตร Icoca จ่าย จากสถานี Nishikujo Station ไปลงสถานีที่ 2 สถานี Bentencho Station ( 2 นาที ) จากนั้นเดินไปรถไฟใต้ดินสายสีเขียว Chuo Line จากสถานี Bentencho Station ไป 2 สถานี ลงที่สถานี Osakako Station ( 4 นาที ) แล้วเดินอีก 450 เมตร ( รวมเวลา 27 นาที ) รถไฟใต้ดินใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้ ใช้บัตร KTP เป็นส่วนลดค่าเข้าชมได้
17.30 น. เที่ยวชม Kaiyukan Aquarium เดินไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันได้ มีปลาชนิดต่างๆที่น่าสนใจมากมา เช่น ปลาวาฬ ปลาฉลาม ปลาทะเลขนาดใหญ่ ค่าตั๋วเข้าชมผู้ใหญ่ 2,700 เยน ส่วนเด็กก็ถูกลงครึ่งหนึ่ง ราคาตั๋วเข้าชม Kaiyukan Aquarium ตามนี้
19.00 น. เดินทางกลับโรงแรม ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสาย Chuo Line ที่สถานี Osakao Station ไป 7 สถานีลงที่ Tanimachiyonchome Station ( 14 นาที ) จากนั้นเดินไปที่รถไฟใต้ดินสายสีม่วง Tanimachi Line จากสถานี Tanimachiyonchome Station ไปลงที่สถานี Higashi-Umeda Station ( 6 นาที ) จากนั้นเดินอีก 400 เมตร ออกประตู 7 –ใช้บัตร Kansia Thru Pass ได้
10.00 น. เดินชม Nakanoshima Park สวนสาธารณ เดินประมาณ 1 กิโลเมตรจากโรงแรม รูปภาพในเว็บไม่เหมือนกับที่ไปเจอสถานที่จริงเนื่องจากว่าเป็นช่วงฤดูหนาว ดอกไม้ไม่บาน ใบไม้ไม่ค่อยมี
13.00 น. เที่ยว Osaka castle ปราสาทโอซากะ เดินไปขึ้นรถไฟสาย Sakaisuji Line จากสถานี Kitahama Station ไปลงสถานีต่อไปที่ Sakaisuji Hommachi Station จากนั้นเดินไปขึ้นรถไฟสาย Chuo Line จากสถานี Sakaisuji Hommachi Station ไปอีก 2 สถานีลงที่ Tanimachi Yonchome Station เดินออกประทางออก ประตูที่ 9 เดินไปปราสาทอีก 1 กิโลเมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้ ใช้บัตร KTP เป็นส่วนลดค่าเข้าชมได้
15.00 น. เที่ยว Umeda Sky Building จุดชมวิว เดินไปขึ้นรถไฟสาย Chuo Line จากสถานี Osaka Castle ไปอีก 3 สถานี ลงที่ Hommachi Station จากนั้นไปต่อรถไฟสาย Midosuji Line จากสถานี Hommachi Station ไปอีก 2 สถานี Umeda Station เดินอีก 120 เมตร
17.00 น. เที่ยวถนน Shinsaibashi-Suji Shopping Street ถนนคนเดิน ไปขึ้นรถไฟสาย Midosuji Line จากสถานี Umeda Station ไปอีก 3 สถานีลงที่ Shinsaibashi Station เดินออกประตูที่ 5 อีก 450 เมตร –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
20.00 น. กลับโรงแรม นั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล Midosuji Line จากสถานี Shinsaibashi Station ลงสถานีที่ 2 ที่ Yodoyabashi Station จากนั้นเดินอีก 900 เมตร (20นาที) ออกประตูที่ 1 –ใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้
10.00 น. เช็คเอาท์
11.00 น. ไปเที่ยว Rinku Town Station + ฝากกระเป๋ารอขึ้นเครื่อง นั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล Sakaisuji Line จากสถานี Minami-Morimachi Station ไปอีก 7 สถานี ลงที่สถานี Tengachaya Station จากนั้นเดินไปรถไฟ Nankai-Limited Express ขึ้นที่สถานี Tengachaya Station ไปอีก 5 สถานีลงที่ Kansai-Airport ( 1 ชั่วโมง 10 นาที) หรือ นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง Midosuji Line จากสถานี Umeda Station ไปอีก 4 สถานี ลงที่สถานี Namba Station จากนั้นเดินไปที่ Nankai-Limited Express ขึ้นที่สถานี Namba Station ลงที่ Rinku Town Station
16.30 น. check in ขึ้นเครื่อง นั่งรถไฟ Nankai สาย Nankai ikuko Line จากสถานี Rinku Town Station ไปลงที่ Kansai-Airport Station
เที่ยวบินขากลับจากโอซาก้า 19.30 ถึง 00.10
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่เที่ยวญี่ปุ่นนะครับ สามารถดาวนโหลด์ PDF แผนเที่ยวญี่ปุ่นโอซาก้า เกียวโต 8 วัน 7 คืน ส่วนลิงค์นี้เป็นคลิปที่ถ่ายตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ใครอยากเห็นสภาพอากาศก็เข้าไปดูได้นะครับ แต่การนำเสนอคลิปไม่ค่อยดีเท่าไหร่ฮาๆ